เมนู

อรรถกถาสัพพทิสากถา


ว่าด้วย พระพุทธเจ้าสถิตอยู่ในทิศทั้งปวง


บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องพระพุทธเจ้าสถิตอยู่ในทิศทั้งปวง. ในปัญหานั้น
ชนเหล่าใดมีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายมหาสังฆิกะทั้งหลายว่า
โลกธาตุสันนิวาสโดยรอบ คือในทิศทั้ง 4 ทั้งในทิศเบื้องต่ำ และในทิศ
เบื้องบน พระพุทธเจ้าทั้งหลายมีอยู่ในโลกธาตุทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าเหล่านั้น
สำเร็จการศึกษาที่สมควรแก่พระองค์แล้ว ก็ดำรงอยู่ในทิศทั้งปวง
ดังนี้ คำถามของสกวาที หมายถึงชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของ
ปรวาที.
ถูกถามว่า พระพุทธเจ้าสถิตอยู่ในปุรัตถิมทิศหรือ ปรวาทีตอบ
ปฏิเสธ เพราะหมายเอาพระสักยมุนี. ถูกถามซ้ำอีกก็ตอบรับรอง เพราะ
หมายเอาพระพุทธเจ้าผู้ดำรงอยู่ในโลกธาตุอื่นด้วยสามารถแห่งลัทธิ
ของตน. คำว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ทรงพระนามว่ากระไร
เป็นต้น สกวาทีกล่าวแล้ว เพื่อท้วงว่า ผิว่า ท่านไม่ทราบ ท่านก็ไม่ควร
กล่าวถึงพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยสามารถแห่งพระนามเป็นต้น. บัณฑิต
พึงทราบ เนื้อความในที่ทั้งปวง โดยอุบายนี้.
อรรถกถาสัพพทิสากถา จบ

ธรรมกถา


[1847] สกวาที ธรรมทั้งปวงเป็นนิยตะ หรือ ?
ปรวาที ถูกแล้ว.
ส. เป็นมิจฉัตตนิบตะ ได้แก่ แน่นอนโดยความผิด หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. เป็นสัมมัตตนิยตะ ได้แก่ แน่นอนโดยความถูก หรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กองอันเป็นอนิยตะ คือไม่แน่นอน ไม่มีหรือ ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. กองอันเป็นอนิยตะมีอยู่ มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า กองอันเป็นอนิยตะมีอยู่ ก็ต้องไม่กล่าวว่า
ธรรมทั้งปวงเป็นนิยตะ.
[1848] ส. ธรรมทั้งปวงเป็นนิยตะ หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกอง 3 คือ กองอันเป็น
มิจฉัตตนิยตะ กองอันเป็นสัมมัตตนิยตะ 1 กองอันเป็นอนิยตะ 1 มิใช่หรือ ?
ป. ถูกแล้ว.
ส. หากว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกอง 3 อย่าง คือ
กองอันเป็นมิจฉัตตนิยตะ 1 กองอันเป็นสัมมัตตนิยตะ 1 กองอันเป็น
อนิยตะ 1 ก็ต้องไม่กล่าวว่า ธรรมทั้งปวงเป็นนิยตะ.